fbpx

เคล็ดลับในการเลือกและทาครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์

การเลือกครีมกันแดดควรคำนึงถึงอะไรบ้าง มาดูกัน

“เราควรทาครีมกันแดดทุกวันในตอนเช้า เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีและมะเร็งผิวหนัง”…นี่คงเป็นคำพูดที่หลายคนได้ยินมาจนชิน แต่การตามหาครีมกันแดดที่ “ใช่” และถูกใจเรานั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย นั่นอาจจะเพราะคุณยังเลือกครีมกันแดดไม่ตรงกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของคุณก็เป็นได้ แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เรามีเคล็ดลับมาบอก

1.เลือกครีมกันแดดแบบ broad-spectrum

สมาคมแพทย์ผิวหนังของอเมริกา (ADA) แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคำว่า “broad-spectrum” เพราะเป็นครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากทั้งรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) ได้ รังสียูวีเอคือรังสีอัลตราไวโอเล็ตชนิดที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ ส่วนรังสียูวีบีคือชนิดที่ทำให้เกิดอาการไหม้แดดนั่นเอง ซึ่งถ้าทั้งสองอย่างมารวมกันก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้

2. ดูค่า SPF ในครีมกันแดด

SPF (Sun Protecting Factor) คือความสามารถในการกรองรังสียูวีบีของครีมกันแดด โดยคร่าวๆ แล้ว SPF 15 จะบล็อครังสียูวีบีได้ประมาณ 93% ส่วน SPF 30 จะบล็อครังสียูวีบีได้ราวๆ 97% แพทย์ผิวหนังแนะนำให้เลือกค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย ยิ่งมากกว่านี้ก็ยิ่งดี และที่สำคัญคือหากออกแดดแรงๆ ต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงด้วย ถ้าออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำควรทากันแดดซ้ำทุกครั้งที่ขึ้นจากน้ำ

3. เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว

ข้อนี้เป็นข้อที่คนมักจะหลงลืม ถ้าคุณมีผิวแห้ง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์หรือมีสารที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างกรดไฮยาลูรอนิคและเซราไมด์ ถ้าผิวมันหรือผิวมีสิวขึ้นง่าย ลองเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อแบบเจล แบบน้ำหรือแบบมูส หรือครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) แต่ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน น้ำหอม และถ้าจะให้ดีควรใช้ครีมกันแดดแบบ physical sunscreen ที่มีส่วนผสมของ zinc oxide และ titanium dioxide ที่ทำหน้าที่บล็อครังสียูวีทางกายภาพ (physical blocker)

4. เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

 ถ้าคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กลางแดดหรือสัมผัสกับแดด อย่างน้อยที่สุดควรเลือกครีมกันแดดที่กันน้ำหรือกันเหงื่อด้วย เพราะคุณจะลืมทำซ้ำเป็นส่วนใหญ่ และถ้าจะให้ดีควรมีส่วนผสมที่ช่วยลดอาการผิวอักเสบหรือไหม้แดด และควรเลือกค่า SPF 50 ขึ้นไป ถ้าไลฟ์สไตล์ของคนต้องโดนแดดแค่บางส่วนหรือบางเวลา เช่น ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือทำสวน ครีมกันแดดแบบแท่งหรือแบบสเปรย์ก็อาจจะตอบโจทย์ เพราะออกแบบมาให้ทาซ้ำได้ง่าย แต่ถ้าในแต่ละวันไม่ค่อยเห็นแสงเดือนแสงตะวัน ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก (และเป็นคนกลัวแดดอยู่แล้ว) ครีมกันแดดแบบ chemical sunscreen ที่ผสมสารบำรุงผิวหรือเติมความชุ่มชื้นก็เป็นทางเลือกที่ดี

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

1. ถ้าใช้ครีมกันแดดแบบ physical sunscreen คุณสามารถทาแล้วออกแดดได้เลย แต่ถ้าเป็น chemical sunscreen ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงถ้าโดนแดดนานๆ

2. ถ้าใช้ครีมกันแดดร่วมกับมอยซ์เจอไรเซอร์ ให้ทามอยซ์เจอไรเซอร์ก่อน 

3. ควรใช้ครีมกันแดดมากแค่ไหน หลักการทั่วไปคือประมาณเหรียญสิบบาทสำหรับใบหน้า แต่คุณก็อาจปรับให้เข้ากับความจำเป็นได้ 

4. หากเล่นกีฬาทางน้ำ ควรเลือกครีมกันแดดที่กันน้ำ (water resistant) โดยทาซ้ำทุกครั้งที่ขึ้นจากน้ำ ถ้าผ่านไป 40 นาที ครีมกันแดดจะมีประสิทธิภาพลดลง แต่ถ้าผ่านไป 80 นาทีครีมกันแดดจะสิ้นสภาพโดยสิ้นเชิง

5. ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าและครีมกันแดดสำหรับผิวกายออกแบบมาให้มีความอ่อนโยนแตกต่างกัน ยกเว้นครีมกันแดดที่ระบุชัดเจนว่าสามารถใช้ได้ทุกส่วน (เช่น ครีมกันแดดแบบ face+ hair+ body)

6. นอกจากผิวหน้าแล้ว อย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณอื่นๆ ที่โดนแดด้วย เช่น มือ ขา เนินอก หรือแม้แต่ไหล่

7. สวมเสื้อผ้าและหมวกเวลาออกแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวอีกทางหนึ่ง

อ้างอิง:
https://www.nbcnews.com/better/lifestyle/how-choose-best-sunscreen-according-these-dermatologists-ncna1002451
https://www.smh.com.au/lifestyle/health-and-wellness/how-to-pick-the-right-sunscreen-and-apply-it-correctly-20191230-p53nl4.html
https://www.vogue.in/content/how-to-use-sunscreen-based-on-your-lifestyle

ไอเทมกันแดดที่แนะนำ

SUN SMART Sun Protection Spray
SUN SWIFT Clear Stick Sun Protection
SUN FUN Natural Source Sunscreen