เวลาซื้อสกินแคร์ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ถ้าไม่ซื้อเพราะอ่านรีวิวหรือเพื่อนแนะนำก็จะซื้อเพราะความเคยชินว่าใช้อยู่เป็นประจำ จนไม่ได้สังเกตว่าผื่นแดงๆ หรือรอยปื้นที่คันคะเยออยู่บ่อยๆ ก็อาจจะเกิดจากสารในสบู่ แชมพู ครีมล้างหน้า ครีมทาผิวหรือเครื่องสำอางที่เราใช้กันทุกวันนี่เอง ฉะนั้น ถ้าอยากหลีกเลี่ยงอาการแพ้หรือระคายเคือง ลองหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อความระคายเคือง (allergen) ดังนี้
1. สาร SLS และ SLES
สาร SLS หรือ Sodium Lauryl Sulfate และ SLES หรือ Sodium Lauryl Ether Sulfate เป็นสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่ใช้เพิ่มความชุ่มชื้นและมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด โดยทำให้เกิดฟอง มักมีอยู่ในผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำและสระผม รวมถึงของใช้อย่างน้ำยาล้างจานและน้ำยาล้างรถด้วย สารทั้งสองชนิดมีค่าการอุดตันผิวค่อนข้างสูง ซึ่งหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้าไปอุตตันรูขุมขนหรือทำให้เกิดการระคายเคืองได้
2. พาราเบน
พาราเบน (Paraben) ที่มักปรากฏในรูปของ Methylparaben และ Ethylparaben คือสารกันเสียที่ผสมอยู่ในสกินแคร์ ครีมล้างหน้าและเครื่องสำอาง รวมถึงอาหาร มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย แม้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะผสมพาราเบนเพียงเล็กน้อยจนอาจจะไม่มีโอกาสสร้างความระคายเคืองให้ผิวปกติ แต่สำหรับผิวที่มีความอ่อนไหวหรือผิวแพ้ง่าย พาราเบนก็อาจทำให้เกิดผื่นแพ้หรืออาการผิวหนังอักเสบ (eczema) ได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยชี้ว่าพาราเบนสามารถซึมเข้าสู่ผิวแล้วฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อได้ด้วย
3. น้ำหอม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันในอเมริกาพบว่าน้ำหอมสังเคราะห์ซึ่งเป็นส่วนประกอบในสกินแคร์ต่างๆ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในชาวอเมริกันกว่า 20% และน้ำหอมนี่เองที่เป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เกิดการแพ้และอาการของผิวหนังอักเสบ โดยอาการก็มีตั้งแต่ผิวเป็นผื่น เป็นขุย ผิวแห้ง ผิวแสบคัน ไปจนถึงเกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบได้
4. ซิลิโคน
ซิลิโคนคือสารที่สกัดมาจากซิลิก้า (silica) และถูกนำมาผสมในสกินแคร์และเครื่องสำอางเพื่อทำให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์นุ่มเนียนน่าใช้ยิ่งขึ้น แม้ซิลิโคนจะมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยเรื่องการสมานบาดแผล ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว เป็นต้น แต่ซิลิโคนก็สามารถดักสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งสกปรกอย่างคราบเหงื่อและมลภาวะให้มากองอยู่บนผิวได้เช่นกัน และถ้าล้างออกจากผิวไม่หมดก็อาจจะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้
5. ฟอร์มัลดีไฮด์
ฟอร์มัลดีไฮด์เป็นสารกันเสียชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต มักผสมอยู่ในยาทาเล็บ สบู่เหลว ครีมนวดผม แชมพู โลชั่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ฯลฯ
การได้รับฟอร์มัลดีไฮด์ในปริมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่ดวงตา จมูก ลำคอและผิว อาจทำให้หนังศีรษะไหม้และผมร่วง และที่อันตรายที่สุดคืออาจก่อให้เกิดมะเร็งหากใช้อย่างต่อเนื่อง
6. แอลกอฮอล์
เรื่องแอลกอฮอล์นี้อาจจะซับซ้อนหน่อย เพราะแอลกอฮอล์กลุ่ม fatty alcohol อย่าง cetyl alcohol, stearyl alcohol, และ cetearyl alcohol นั้นถือว่าเป็นแอลกอฮอล์ที่ดีต่อผิว เพราะทำหน้าที่เหมือนไขมันบำรุงผิวไม่ให้แห้งเกินไป (แต่ผิวที่เป็นสิวง่ายก็อาจจะต้องพึงระวังเพราะอาจทำให้อุดตันรูขุมขนได้) แต่แอลกอฮอล์อีกหลายชนิด เช่น ethanol, SD alcohol 40 หรือ SD alcohol 30 กลับทำหน้าที่ในทางตรงกันข้าม นั่นคือดึงน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวขาดน้ำและระคายเคืองได้ แถมยังทำให้ผิวหยาบกร้าน รูขุมขนกว้างยิ่งขึ้น และทำให้ผิวผลิตซีบัมหรือน้ำมันส่วนเกินออกมา ซึ่งซีบัมนี้เป็นอาหารของแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวตามมาได้
7. อลูมินัม
อลูมินัม (aluminum) อาจจะมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายบางแบรนด์เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยระงับเหงื่อได้ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าอลูมินัมมีส่วนต่อการเกิดมะเร็งเต้านม แต่ก็มีผลการศึกษายืนยันว่าอลูมินัมนี้สามารถสะสมอยู่ที่เนื้อเยื่อช่วงอกได้ และที่สำคัญคือเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต
8. กรด
กรดต่างๆ ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์นั้นถือเป็นสารที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกรดซาลิไซลิคที่ใช้รักษาสิว เรตินอยด์ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์คอลลาเจน และกรดไกลโคลิคที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ผลัดลอกเซลล์ผิว ทั้งหมดนี้สามารถก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้ผิวแห้ง มีรอยแดงหรือไหม้ได้ถ้าใช้เกินพอดี
9. โซเดียมคลอไรด์
โซเดียมคลอไรด์ ซึ่งก็คือเกลือนั่นเอง นอกจากจะใช้เป็นน้ำเกลือล้างแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วยังถูกนำมาผสมในเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ในฐานะสารที่ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์หนาขึ้น และช่วยปรับค่าพีเอชด้วย ถ้าอยู่ในแชมพู โซเดียมคลอไรด์ที่มากเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง
10. โพลีเอทิลีน ไกลคอล (PEG)
โพลีเอทิลีน ไกลคอล (Polyethylene Glycols หรือ PEGS) เป็นสารอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยเพิ่มความหนาให้กับเนื้อผลิตภัณฑ์ สาร PEG นี้สามารถซึมเข้าสู่ผิวที่อาจจะบาดเจ็บ เป็นแผลหรือมีความอ่อนไหวได้ และพาสารอื่นๆ ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวลงไปด้วย นอกจากนี้ สาร PEG ยังอาจไปรบกวนกลไกสร้างความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติด้วย
และนี่ก็เป็นแค่สารเคมีส่วนหนึ่งเท่านั้นที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวได้ แต่ความโชคดีของคนในยุคนี้คือปัจจุบันนี้ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น และหลายๆ แบรนด์ก็ได้ผลิตผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ (มองหาคำว่า paraben free, alcohol free, no SLS and SLES, fragrance free, tear free) ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็อาจจะลดความเสี่ยงในการแพ้ได้อีกระดับหนึ่ง
อ้างอิง
https://www.everydayhealth.com/pictures/skin-care-ingredients-allergic-reactions/
https://www.vanillaluxury.sg/magazine/15-most-common-harmful-ingredients-your-shampoo
ไอเทมแนะนำสำหรับผิวแพ้ง่าย